Descriptive Alt Text

ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว

ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคงูสวัด1และมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนเช่น PHN2 มากกว่าคนสุขภาพดี

นอกจากนั้นการเป็นโรคงูสวัด
ยังส่งผลให้โรคประจำตัว
บางโรคที่เป็นอยู่มีอาการแย่ลง3-6

มาดูกันว่าโรคประจำตัวแบบไหนบ้าง ที่เสี่ยงต่ออาการเหล่านี้!

รูปภาพ

เสี่ยงงูสวัด 2.64 เท่า

โรคเบาหวาน

ผู้ป่วยเบาหวานเสี่ยงงูสวัด
มากกว่าคนปกติ ถึง 2.64 เท่า7

มีโอกาสเกิดอาการปวดตามแนวเส้นประสาท แม้ว่าผื่นหายดีแล้ว (PHN) สูงขึ้น 18% 8 อีกทั้งผู้ป่วยเบาหวานที่เคยคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี 24% กลับมาคุมน้ำตาลไม่ได้หลังจากที่เป็นงูสวัด3

Herpes Zoster with Comorbidities: ทําไมคนไข้เบาหวานจึงเสี่ยงต่อการเป็นงูสวัด

คนไข้เบาหวานมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายขึ้นกว่าคนปกติ เนื่องจากภูมิคุ้มกันมีการเปลี่ยนแปลงทำให้เชื้องูสวัดที่ซ่อนอยู่ในร่างกาย กลับมาแสดงอาการได้ง่ายขึ้น 3,9-11

จากข้อมูลงานวิจัย พบว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความเสี่ยงต่อการเป็นงูสวัดได้ถึง 2.64 เท่าเมื่อเทียบกับคนที่สุขภาพดีในวัยเดียวกัน7

นอกจากนี้ ผู้ป่วยเบาหวานที่เป็นงูสวัดมีแนวโน้มที่จะปวดตาม แนวเส้นประสาท (PHN) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย หลังจากที่เป็นงูสวัดแม้ว่าผื่นจะหายดีแล้ว สูงขึ้น 18% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เป็นโรคเบาหวาน8 ผู้ป่วยเบาหวานที่เคยคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี 24% กลับมาคุมน้ำตาลไม่ได้หลังจากที่เป็นงูสวัด 3

ดังนั้นการป้องกันงูสวัดในผู้ป่วยเบาหวานจึงเป็นเรื่องที่สําคัญ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับโรคงูสวัด วิธีป้องกัน รวมถึงวัคซีนป้องกันเพื่อลดความรุนแรงของโรค

รูปภาพ

เสี่ยงต่ออาการไตวาย

รูปภาพ

โรคไตเรื้อรัง

ผู้ป่วยโรคไตเสี่ยงเป็นโรคงูสวัดสูงเมื่อเทียบกับคนสุขภาพดีในวัยเดียวกันถึง 1.38 เท่า12

มีอาการปวดตามแนวเส้นประสาท แม้ว่าผื่นหายดีแล้ว (PHN) สูงขึ้น 1.59 เท่าเมื่อเทียบกับคนสุขภาพดี2 และผู้ป่วยโรคไตที่เป็นงูสวัด ยังเสี่ยงต่ออาการไตวายมากขึ้นอีกด้วย4

ความเสี่ยงต่อการเป็นงูสวัดในผู้ป่วยโรคไต

ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่าผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมีความเสี่ยงต่อ การเป็นงูสวัดเพิ่มมากขึ้น 1.38 เท่า เทียบกับคนที่สุขภาพดีในวัยเดียวกัน12

โรคงูสวัดยังทําให้เพิ่มโอกาสเสี่ยงที่จะทําให้เกิดภาวะไตวายระยะสุดท้าย2 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคงูสวัดเพิ่มสูงขึ้นในผู้ที่ฟอกไตทางเส้นเลือด 1.35 เท่า

ผู้ที่ฟอกไตทางหน้าท้อง 3.61 เท่าและผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายไต 8.46 เท่า3 นอกจากนี้ในผู้ป่วยโรคไตอายุตํ่ากว่า 60 ปี มีความเสี่ยงต่อการปวดตามแนวเส้นประสาท (PHN) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยหลังจากการที่เป็นงูสวัดสูงขึ้นถึง 1.59 เมื่อเทียบกับคนที่สุขภาพดีในวัยเดียวกัน4 ผู้ป่วยโรคไตเป็นงูสวัดยังทําให้สภาวะไตเสื่อมถอยและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นไตวายมากขึ้นอีก 1.36 เท่า4 ผู้ป่วยโรคไตเอง มักมีโรคประจําตัวอย่างอื่นร่วมอยู่ด้วย ซึ่งเมื่อเป็นงูสวัดในผู้ป่วยกลุ่มนี้ทําให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นไตวายมากขึ้นไปอีกด้วย2 แม้ว่าจะเคยติดเชื้องูสวัดแล้ว ผู้ป่วยโรคไตมีโอกาสเป็นซํ้าได้อีก สูงถึง 20%14

ดังนั้นการป้องกันงูสวัดในผู้ป่วยโรคไต โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปจึงเป็นเรื่องที่สําคัญ เพื่อลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคงูสวัด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับโรคงูสวัด วิธีป้องกัน รวมถึงวัคซีนป้องกันเพื่อลดความรุนแรงของโรค

รูปภาพ

มีโอกาสเกิดภาวะ
แทรกซ้อนอย่าง Stroke ได้

โรคหลอดเลือดสมอง

ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มโอกาสเสี่ยงจะเป็นโรคงูสวัดมากกว่าปกติเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่มีโรคนี้5

และเสี่ยงต่ออาการปวดตามแนวเส้นประสาท แม้ว่าผื่นหายดีแล้ว (PHN) ถึง 2.15 เท่า15 ในขณะเดียวกัน คนทั่วไปหลังจากเป็นโรคงูสวัด มีโอกาสที่จะ เกิดภาวะ แทรกซ้อนอันตรายอย่าง stroke ตามมาได้ โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือน - 1 ปี5 หลังจากที่เป็นงูสวัด มีโอกาสเกิด stroke ขึ้นตามมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการเป็นงูสวัดในช่วง 1 เดือน มีความเสี่ยง ในการเป็น stroke ได้สูงถึง 78% ความเสี่ยงของ การเป็น stroke ภายหลังการเป็นงูสวัดอยู่ ถึง 1 ปี มีความเสี่ยงอยู่ที่ 20%5

ทําไมเป็นงูสวัด แล้วมีโอกาสเป็น Stroke


การติดเชื้องูสวัดทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผนังหลอดเลือด กล่าวคือ ผนังหลอดเลือดหนาตัวมากขึ้น นอกจากนี้เมื่อมีการติดเชื้องูสวัด ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนอง ทางภูมิคุ้มกัน ทําให้เกิดการอักเสบของผนังหลอดเลือดด้วย เมื่อผนังหลอดเลือดมีอาการอักเสบ และมีการหนาตัวขึ้น การ ไหลเวียนของเลือดในเส้นเลือดบริเวณนี้จึงถูกขัดขวาง ทําให้เนื้อสมองบางส่วนขาดเลือดไปเลี้ยงได้ 1

ข้อมูลจากงานวิจัย รายงานว่า ผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง ทั้งหลอดเลือดสมองตีบ หลอดเลือดสมองแตก ล้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นงูสวัด โดยผู้ป่วยหลอดเลือดสมองตีบ มีความเสี่ยงต่อการเป็นงูสวัด เพิ่มมากขึ้น 2.51 เท่าเทียบกับผู้ที่ไม่มีโรคนี้ ผู้ป่วยหลอดเลือดสมองแตก มีความเสี่ยงต่อการเป็นงูสวัด เพิ่มมากขึ้น 2.31 เท่า เทียบกับผู้ที่ไม่มีโรคนี้ นอกจากนี้ในผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง พบอาการปวดตามแนวเส้นประสาท (PHN) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย หลังจากที่เป็นงูสวัด แม้ว่าผื่นหายดีแล้วสูงขึ้นถึง 2.15 เท่า 2

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นความอันตรายจากภาวะแทรกซ้อนของการเป็นโรคงูสวัด หรือผู้ป่วยที่เป็น Stroke เองก็เสี่ยงต่อการติดเชื้องูสวัด โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป จึงเป็นเรื่องสําคัญ ที่จะลดความเสี่ยง และความรุนแรงของโรค ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับโรคงูสวัด วิธีป้องกัน รวมถึงวัคซีนป้องกัน เพื่อลดความรุนแรงของโรค

รูปภาพ

ทำให้โรคปอดอุดตันเรื้อรัง
มีอาการแย่ลง

โรคปอดอุดตันเรื้อรัง

ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังมีความเสี่ยงในการเป็นโรคงูสวัดเพิ่มมากถึง 2.77 เท่า1

และมีความเสี่ยงต่ออาการปวดตามแนวเส้นประสาท แม้ว่าผื่นหายดีแล้ว (PHN) ถึง 1.53 เท่า เปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่มีโรคนี้2 ในขณะเดียวกันการเป็นงูสวัดในผู้ป่วยกลุ่มนี้ จะทําให้โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังมีอาการแย่ลงได้อีกด้วย3

เพื่อลดความเสี่ยงของการเป็นงูสวัด และลดความรุนแรงจาก ภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับโรคงูสวัด วิธีป้องกัน รวมถึงวัคซีนป้องกันเพื่อลดความ รุนแรงของโรค

รูปภาพ

เสี่ยงต่อการเป็นงูสวัดขึ้นตา

โรคหอบหืด

ผู้ป่วยโรคหอบหืดมีความเสี่ยงที่จะเป็น งูสวัดมากขึ้นถึง 1.32 เท่าเมื่อเทียบกับ คนสุขภาพดีในวัยเดียวกัน17

เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่ลดต่ำลง18 มีความเสี่ยงต่ออาการ PHN ถึง 1.21 เท่า2 และมีความเสี่ยงต่อการเป็นงูสวัดขึ้นตาถึง 1.9 เท่า19

เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้องูสวัด และลดความรุนแรงจาก ภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับโรคงูสวัด วิธีป้องกัน รวมถึงวัคซีนป้องกันเพื่อลดความ รุนแรงของโรค

close
Arrow up

*รูปภาพแพทย์ถูกสร้างด้วยความช่วยเหลือจาก Artificial Intelligence